Mesofat คืออะไร?
เมโสแฟต (Meso Fat) คือ ตัวยาลดไขมันส่วนเกิน เพื่อกระชับสัดส่วนที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน โดยประกอบไปด้วยสารยาที่มีคุณสมบัติเร่งการเผาผลาญไขมัน รวมถึงช่วยลดกระบวนการเกิดเซลล์ไขมันใหม่
เทคนิกการผลักวิตามินเข้าสู่ชั้นไขมัน เป็นวิธีการลดไขมันและเซลลูไลท์เฉพาะที่โดยไม่ต้องผ่าตัดนั่นเอง
- ฉีด Mesofat ช่วยอะไร?
ช่วยในการสลายไขมัน จึงเหมาะสำหรับคนที่ต้องการลดสัดส่วนจุดต่างๆ ของร่างกาย ให้ลดลงเร็วขึ้นจากวิธีปกติ ฉีดลดแก้ม เหนียง ลดขนาดต้นแขน ต้นขา สะโพก และลดไขมันในจุดที่มีการสะสมมาก ๆ
- Mesofat ฉีดตรงไหนได้บ้าง?
- ลดไขมันที่แก้มให้หน้าเรียวเล็ก
- ลดไขมันที่คาง (เหนียง)
- ลดไขมันที่ต้นแขน ต้นขา
- ลดไขมันหน้าท้อง
- ลดไขมันที่จมูก (บาน) ทำให้เล็กลง
- ลดไขมันที่หนังตาบน ส่งผลให้ตาหย่อนคล้อย
- ลดไขมันที่น่อง
ข้อดีการฉีด Mesofat
ที่ อีเดน คลินิก
เราใช้เทคนิคพิเศษ
แผลผ่าตัดได้รับการเย็บ
อย่างประณีตทำให้แผล
เรียบเนียนสวยอย่างไร้ที่ติ
มีความพร้อมในเรื่องของ
เครื่องมือแพทย์
ห้องผ่าตัดปลอดเชื้อ
มาตรฐานสากล
เราจัดเตรียมห้องพัก
แบบ Private ไว้ให้สำหรับผู้มารับบริการ
และมีการดูแลอย่างใกล้ชิด
เรามีทีม Customer Care
และทีมพยาบาลวิชาชีพ
คอยดูแลอย่างใส่ใจ
ติดต่อสอบถามผลการรักษาแม้จะเกิน 1 ปีแล้วก็ตาม
- Mesofat ต้องฉีดกี่ครั้ง?
ฉีดเมโสแฟตในครั้งแรก จะเห็นผลว่าบริเวณที่ฉีดเริ่มยุบลงภายใน 5-7 วัน
หลังจากนั้น 2-3 สัปดาห์ จึงจะเห็นผลลัพธ์อย่างเต็มที่
สามารถกลับมาฉีดเมโสแฟตซ้ำได้ตามคำแนะนำของแพทย์ หากคนไข้ต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเคสที่มีไขมันมาก อาจฉีด 4-5 ครั้ง และการฉีดต่อเนื่องจะช่วยให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น
- Mesofat อยู่ได้นานแค่ไหน?
Mesofat อยู่ได้นานแค่ไหน จะขึ้นอยู่กับการใช้ชีวิตประจำวัน รวมถึงการรับประทานอาหารด้วยเช่นกัน
แต่ปกติแล้วจะสามารถรักษาผลลัพธ์ได้นาน 2-3 เดือน ถ้าดูแลตัวเอง ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม หลีกเลี่ยงของทอด ของมัน ไม่เพิ่มไขมันให้ตัวเอง ก็จะช่วยรักษาผลลัพธ์ให้
อยู่ได้นานขึ้น
วิธีดูแลหลังฉีด Mesofat
- พยายามดื่มน้ำให้ได้วันละ 2 ลิตร เพราะไขมันเหลวที่โดนสลายด้วยการฉีดเมโสแฟต จะถูกขับออกทางปัสสาวะเป็นส่วนใหญ่
ดังนั้นการดื่มน้ำมากๆ จะช่วยขับไขมันส่วนเกินที่สลายให้ออกจากร่างกายได้มากขึ้น - อาจมีรอยเขียวช้ำบริเวณที่ฉีดสลายไขมันบ้างหากโดนเส้นเลือดฝอยเล็กๆ จึงควรหลีกเลี่ยงการนวดตัว อบซาวน่า
และการทำทรีทเม้นท์ใดๆ หลังทำประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อลดการฟกช้ำให้น้อยลง - อาจมีอาการบวมน้ำยาเป็นเวลาประมาณ 2-4 ชั่วโมงเท่านั้น เมื่อหายแล้วจะไม่มีรอยใดๆ ผิวหนังจะยุบเอง ไม่เป็นคลื่น
ผิวไม่เป็นรอยบุ๋ม งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ - ควรออกกำลังกายเบาๆ เช่น เดินเร็ว โยคะ หรือแอโรบิค อย่างน้อยวันละ 30-45 นาที อาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง
เพื่อให้กล้ามเนื้อกระชับ ช่วยรีดไขมันให้ออกจากร่างกายได้เร็วขึ้นและลดการสะสมของไขมันใหม่ - การทำเมโสแฟตจะไม่มีประโยชน์ ถ้าไม่ปรับพฤติกรรมการทานอาหาร เพราะฉะนั้น คนไข้ควรหลีกเลี่ยงของมัน ของทอด
บุฟเฟต์แต่ให้ทานผักผลไม้รวมถึงอาหารประเภทต้มหรือนึ่งให้มากขึ้นและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอไขมันส่วนเกิน
จะได้ไม่กลับมาสะสมอีก